สรุป ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2567

สรุป ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ในโลกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและการแข่งขันที่ดุเดือดนี้ การเคลื่อนไหวของทีมต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงของนักเตะทำให้เกมนี้ยิ่งเร้าใจมากขึ้น จากสนามแข่งขันในยุโรปที่ทีมชั้นนำพบปะกันในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก ไปจนถึงการต่อสู้ของตลาดการโอนย้ายนักเตะที่สามารถกำหนดอนาคตของหลายสโมสรได้ ทุกการเคลื่อนไหวและทุกเกมล้วนสร้างผลกระทบที่สั่นสะเทือนไปทั่ววงการฟุตบอล

เมื่อลำดับการแข่งขันเข้าสู่ช่วงสำคัญ แต่ละทีมไม่เพียงแต่ต้องพิสูจน์ฝีเท้าในสนามแข่งเท่านั้น แต่ยังต้องแสดงวิสัยทัศน์ในการจัดการทีมและการดึงตัวนักเตะมาร่วมทีมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ของบอร์ซซา ดอร์ทมุนด์ที่พยายามจะคว้าชัยชนะในแชมเปี้ยนส์ลีก เชลซีที่หวังจะได้ตัวออสซีเมนมาร่วมทีม หรือเลเวอร์คูเซ่นที่กำลังทำลายสถิติไม่แพ้ใครในทุกรายการแข่งขัน ทั้งหมดนี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามที่จะดำเนินไปสู่ความสำเร็จในแต่ละด้านของวงการฟุตบอลระดับโลก.

1. ดอร์ทมุนด์รีบปรับฟอร์มเพื่อต่อแข่งกับปารีสในรอบรองฯ แชมเปี้ยนส์ลีก

 

เอดิน เทอร์ซิช เฮดโค้ช โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมนัดที่สอง รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จะบุกไปเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ว่า แม้ทีมจะมีความได้เปรียบจากการนำ 1-0 ในเกมแรก แต่หากต้องการเอาชนะและผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ดอร์ทมุนด์ จะต้องพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้นกว่านัดที่แล้ว ดอร์ทมุนด์ ไม่เคยเอาชนะ เปแอสเช ได้เลยใน 3 เกมที่ผ่านมา และเกมล่าสุดที่เสมอกันมา 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเดือนกันยายน 2566

เทอร์ซิช กล่าวว่า การเล่นที่ดีในเกมแรกทำให้ทีมมีความได้เปรียบ แต่ฟอร์มแบบนั้นน่าจะไม่เพียงพอที่จะพาทีมเข้าชิงได้ ซึ่ง ปารีส จะต้องทำผลงานให้ดีขึ้นกว่านัดแรก เช่นเดียวกับทีมที่จะต้องร่วมแรงร่วมใจกัน ทำทุกอย่างตามแผนที่วางไว้ เพื่อคว้าตั๋วเข้าชิงในนัดนี้ให้ได้ เทอร์ซิช กล่าวว่า เมื่อเทียบกับเกมที่แพ้ เปแอสเช เมื่อเดือนกันยายน ทีมแสดงให้เห็นแล้วว่า ดอร์ทมุนด์ พัฒนาขึ้นมาได้มาก ทั้งความกล้าหาญ และความมุ่งมั่น ซึ่งจะต้องนำสิ่งเหล่านี้ลงสนามให้ได้ในเกมพรุ่งนี้ และหากจำเป็นพวกเขาพร้อมจะวิ่งเพิ่มอีก 20 กิโลเมตร

2. สาวก “สิงห์บลูส์” รอลุ้นชัย ด้วย 3 ปัจจัยในการคว้าตัว โอซิมเฮน แม้ เปแอสเช จะให้ความสนใจ

 

วินเซนโซ ดีอันเจโล นักข่าวจากสำนักข่าวดังของอิตาลี กัซเซ็ตต้า เดลโล สปอร์ต เปิดเผยว่า แม้ว่า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะสนใจ วิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้า นาโปลี แต่ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก ก็มีโอกาสคว้าลายเซ็นมากกว่า แม้จะฟอร์มย่ำแย่ในสนาม หนึ่งในปัจจัยที่อาจทำให้ โอซิมเฮน ย้ายมาร่วมทีม เชลซี ก็คือความชื่นชอบต่อ ดีดิเยร์ ดร็อกบา ตำนานดาวยิงของทีม ซึ่งการได้ย้ายมา สแตมฟอร์ด บริดจ์ จะเป็นการเติมเต็มความฝันในวัยเด็กของเขา

สองคือ เชลซี สามารถการันตีตำแหน่งตัวจริงได้มากกว่า เพราะทีมกำลังขาดกองหน้าตัวเป้า ในขณะที่ เปแอสเช มีกองหน้าค่าตัวแพงในทีมมากมาย เช่น รองดาล โกโล มูอานี หรือ กอนคาโล รามอส และสาม นาโปลี อาจสนใจผู้เล่นที่ได้รับข้อเสนอในข้อตกลง ล่าสุดมีข่าวว่า บอร์ดบริหารเชลซี กำลังอยากโละ โรเมลู ลูกากู และอาจเสนอแข้งเบลเยียม พ่วงเงินอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อแลกกับกองหน้านาโปลี

3. ชื่นชมทีมสุดยอด! เลเวอร์คูเซ่น ทำสถิติไร้พ่าย 48 เกมติด เทียบเท่า เบนฟิก้า

 

เลเวอร์คูเซ่น ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ล่าสุดทำสถิติเทียบชั้น เบนฟิก้า ทีมแกร่งจากโปรตุเกส ด้วยการไม่แพ้ใครติดต่อกันถึง 48 นัดในทุกรายการ หลังเอาชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แชมป์บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2023/2024 สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทาบเทียบสถิติกับ “อินทรีลิสบอน” เบนฟิก้า ทีมชั้นนำของโปรตุเกส โดยการไม่แพ้ใครติดต่อกัน 48 นัดในทุกรายการ ภายใต้การคุมทีมของ ชาบี อลอนโซ่ โดยล่าสุด “ห้างขายยา” ยังรักษาฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องด้วยการถล่ม ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 5-1 ในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เลเวอร์คูเซ่น ทำผลงานยอดเยี่ยมเทียบเท่าสถิติของ เบนฟิก้า ที่ทำไว้ในช่วงเดือนธันวาคม 1963 ถึงกุมภาพันธ์ 1965 โดยไม่แพ้ใครติดต่อกันถึง 48 นัดในทุกรายการ ทีมของ อลอนโซ่ ทำประตูไปแล้วทั้งหมด 134 ลูกในฤดูกาลนี้ และกำลังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรในการลุ้นคว้าถึง 3 แชมป์ หลังจากที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเยอรมันไปแล้ว โดยพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล (พบ ไคเซอร์สลอเทิร์น) และทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ด้วยการชนะ โรม่า มาได้ 2-0 ในเกมแรก อลอนโซ่ และลูกทีม ยังมีโอกาสที่จะทำลายสถิติไม่แพ้ใครเป็นนัดที่ 49 ติดต่อกัน หากว่าสามารถเอาชนะ โรม่า ที่สนาม เบย์ อารีน่า ในเกมนัดที่สอง รอบรองชนะเลิศ ยูโรป้าลีก ในวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคมนี้

4. แท็คติค แอนเซล็อตติ บวกกับการมาของดาวรุ่ง จู๊ด! จับ 5 ปัจจัยที่ทำให้ เรอัลมาดริด ผงาดเป็นแชมป์

คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชั้นนำ และ จูด เบลลิงแฮม ดาวรุ่งคนเก่งของทีม เป็นตัวอย่างของสปิริตที่ยอดเยี่ยมของ เรอัลมาดริด ที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน มาครองได้สำเร็จ เรอัล มาดริด การันตีการคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน สมัยที่ 36 อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ บาร์เซโลน่า แพ้ ฮิโรน่า 2-4 เมื่อวันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดย “ราชันชุดขาว” มี 87 คะแนนจาก 34 นัด นำ ฮิโรน่า ที่แซง บาร์เซโลน่า ไปแล้วถึง 13 คะแนน ซึ่งไม่มีทีมใดสามารถไล่ทันได้อีกต่อไป ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 4 นัด เรอัล มาดริด ทุ่มเงิน 103 ล้านยูโร (ประมาณ 4,017 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพื่อคว้าตัว จูด เบลลิงแฮม กองกลางชาวอังกฤษ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งนักเตะวัย 20 ปี ไม่ต้องใช้เวลาปรับตัว และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้นฤดูกาล เบลลิงแฮม ยิงไปแล้วถึง 22 ประตู และทำอีก 10 แอสซิสต์ในทุกรายการ โดยเป็นการยิงใน ลา ลีกา ถึง 18 ลูก ซึ่งเขามีชื่อเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีสิทธิ์คว้ารางวัลบัลลงดอร์ ปี 2024 อีกด้วย

ฤดูกาลนี้ เรอัล มาดริด ต้องเจอกับความท้าทายหลายอย่าง ทั้งการได้รับบาดเจ็บระยะยาวของผู้เล่นตัวหลัก อย่าง ธิโบต์ กูร์ตัวส์, เอแดร์ มิลิเตา และ ดาบิด อลาบา แต่ตัวสำรองอย่าง อันเดรย์ ลูนิน ผู้รักษาประตูชาวยูเครน และ ออเรเลียน ตูชูอาเมนี กองกลางชาวฝรั่งเศส ที่บางครั้งถูกจับมายืนเป็นกองหลัง ต่างก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ก็ยังมีแข้งอาวุโสอย่าง โทนี โครส, ลูก้า โมดริช, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และดาวรุ่งอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ต่างมีบทบาทสำคัญในการรักษามาตรฐานการเล่นของทีม นักเตะ เรอัล มาดริด แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งตลอดทั้งฤดูกาล พวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมสำคัญกับคู่แข่งอย่าง บาร์เซโลน่า และ ฮิโรน่า แม้ในบางเกม “ราชันชุดขาว” จะเล่นได้ไม่ดีนัก แต่พวกเขาก็สามารถพลิกกลับมาเอาชนะหรือเสมอได้ในหลายๆ นัด ด้วยสปิริตที่ยอดเยี่ยมของทีม เรอัล มาดริด ยังทำประตูสำคัญในช่วงท้ายเกมได้หลายนัด ทำให้ทีมเก็บคะแนนใน ลา ลีกา ได้มากกว่า 10 แต้ม

เรอัล มาดริด จึงสมควรได้รับการยกย่องในความสำเร็จครั้งนี้ และน่าจะเป็นต้นแบบให้กับสโมสรชั้นนำอื่นๆ ในการสร้างทีมให้แข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืน ผ่านการผสมผสานระหว่างประสบการณ์และพลังของเลือดใหม่ ภายใต้ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง เรอัล มาดริด จะยังเป็นหนึ่งในทีมที่หลายๆ สโมสรจับตามองในความสำเร็จทั้งใน ลา ลีกา และเวทียุโรปต่อไป เพื่อที่จะนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมตามบริบทของทีมตัวเอง ในการก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จบนเวทีระดับสูงสุดของวงการฟุตบอล

---

สรุป ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ในสัปดาห์ที่ผ่านมาของวงการฟุตบอลยุโรป โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีความท้าทายใหญ่รออยู่ในการพบกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในนัดรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก โดยต้องปรับปรุงฟอร์มเพื่อคว้าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ขณะที่ เชลซี กำลังพยายามคว้าตัว วิคเตอร์ โอซิมเฮน มาร่วมทีม โดยมีความได้เปรียบจากการที่ โอซิมเฮน ชื่นชอบ ดิดิเยร์ ดร็อกบา และการเจรจาแลกเปลี่ยนนักเตะกับนาโปลี ในขณะเดียวกัน เลเวอร์คูเซ่น สร้างสถิติใหม่ด้วยการไม่แพ้ใครใน 48 นัดติดต่อกัน ตามรอยเบนฟิก้า และเรอัล มาดริด ฉลองชัยชนะในลาลีกาสเปน โดยมีจูด เบลลิงแฮม ซึ่งโชว์ฟอร์มเด่นมากในฤดูกาลนี้เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ.