ผลฟุตบอลเมื่อคืนนี้มีหลายคู่ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลาลีกา สเปน และสกอตติช พรีเมียร์ชิพ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเอาชนะท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ได้ 2-0 จากการทำคนเดียว 2 ประตูของเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” เข้าใกล้การคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกันเข้าไปทุกที เหลือเพียงเอาชนะเวสต์แฮมในนัดสุดท้ายเท่านั้น
ส่วนในลาลีกา เรอัล มาดริด ก็โชว์ฟอร์มดุ ถล่มอลาเบส 5-0 โดยจู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ยิงประตูที่ 19 ในลีกได้ด้วย ขณะที่ทีมเหลืออีกแค่นัดเดียวก็จะทำลายสถิติ 31 นัดไม่แพ้ใครที่ตั้งไว้เมื่อปี 1988-89
ปิดท้ายที่สกอตแลนด์ เรนเจอร์สแซงเอาชนะดันดี 5-2 แม้จะโดน 2 ประตูนำก่อนในครึ่งแรก กุนซืออย่างฟิลิปเป้ เคลเมนต์เปิดเผยว่าเขาโกรธลูกทีมเป็นฟืนเป็นไฟในช่วงพักครึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะมาระเบิดฟอร์มยิง 4 ลูกรวดในครึ่งหลัง แซงกลับมาเก็บ 3 แต้มสำคัญได้ ขณะที่ดันดีพลาดท่าชวดไปเล่นฟุตบอลยุโรปแน่นอนแล้ว
1. Tottenham Hotspur 0 – 2 Manchester City
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าใกล้การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกันเข้าไปทุกที หลังบุกไปเอาชนะท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ได้ 2-0 เมื่อคืนนี้
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงคนเดียว 2 ประตูในครึ่งหลัง ช่วยให้ Man City คว้าชัยในเกมที่ค่อนข้างสูสี ส่งผลให้ท็อตแนมพลาดโอกาสจบท็อปโฟร์ไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่แอสตัน วิลล่าได้ตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้าเป็นครั้งแรก
ลูกทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะได้แชมป์ลีกทันทีหากเอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ดได้ในนัดสุดท้ายที่เอติฮัด สเตเดี้ยม วันอาทิตย์นี้
แม้ว่าจะรู้ว่าคู่อริอย่างอาร์เซนอลจะเป็นผู้ได้ประโยชน์หากท็อตแนมทำผลงานได้ดี แต่พวกเขาก็ยังสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี โดยเฉพาะจากฟอร์มการเซฟที่ยอดเยี่ยมของสเตฟาน ออร์เตกา ผู้รักษาประตูตัวสำรองที่ลงมาแทนเอแดร์สันซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับคริสเตียน โรเมโร่
ฮาแลนด์ยิงประตูแรกตั้งแต่ 6 นาทีหลังเริ่มครึ่งหลัง จากการแปโล่งๆ หลังได้รับบอลจากเควิน เดอ บรอยน์ จากนั้นออร์เตกาก็เซฟหลายครั้งเพื่อรักษาสกอร์ให้ทีม ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งปัดลูกยิงของเดยัน คูลูเซฟสกี้ ถึง 2 ครั้ง และปฏิเสธโอกาสทองของซน ฮึง-มิน
ท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ มาปิดกล่องจากจุดโทษ หลังเจเรมี่ โดกู โดนเปโดร ปอร์โร่ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ และเป็นฮาแลนด์ที่สังหารไม่พลาด ยิงประตูที่ 38 ของเขาในฤดูกาลนี้ ช่วยให้สกอร์ขยับเป็น 2-0
ชัยชนะนัดนี้ทำให้แมนฯ ซิตี้ทิ้งห่างอาร์เซนอลเป็น 2 แต้ม ก่อนเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล และมีโอกาสสูงที่จะเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน
2. Real Madrid 5 – 0 Deportivo Alavés
จู๊ด เบลลิงแฮม ยิงประตูที่ 19 ในลาลีกา ช่วยให้เรอัล มาดริด แชมป์เก่า ถล่มอลาเบส 5-0 ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อคืนนี้
กองกลางทีมชาติอังกฤษเบิกสกอร์ให้ราชันชุดขาวในนัดแรกหลังการคว้าแชมป์ลีก ด้วยการโหม่งบอลจากลูกครอสของโทนี่ ครูส เข้าประตูตั้งแต่นาทีที่ 10
ประตูนี้ทำให้เบลลิงแฮมตามหลังอาร์เท็ม ดอฟบิค กองหน้าคนเก่งของคิโรน่าเพียงลูกเดียวในการลุ้นรางวัลดาวซัลโว โดยเหลือการแข่งขันอีก 2 นัด
วินิซิอุส จูเนียร์ ช่วยให้ราชันชุดขาวหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 27 จากการยิงในระยะเผาขนหลังได้รับบอลที่ยอดเยี่ยมจากเอดูอาร์โด้ คามาวิงกา
เฟเดริโก วัลเวอร์เด้ มายิงประตูที่ 3 ช่วงท้ายครึ่งแรกด้วยลูกยิงสุดสวยเสียบมุมบน ก่อนที่วินิซิอุสจะมาบวกเพิ่มอีกลูกด้วยความพยายามส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม
ติโบต์ กูร์ตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเบลเยี่ยม ได้ลงเฝ้าเสาแทนอังเดร ลูนิน และโชว์ซูเปอร์เซฟหลายต่อหลายครั้ง ทำให้คาร์โล อันเชล็อตติ ต้องตัดสินใจยากว่าใครจะได้เป็นมือหนึ่งในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
อาร์ดา กูเลอร์ ดาวรุ่งชาวตุรกี มาปิดท้ายสกอร์ในนาทีที่ 81 ด้วยการซัดเรียดๆ เข้ามุมล่าง ทำให้จบเกมด้วยสกอร์ขาดลอย 5-0
เรอัล มาดริด เหลืออีกเพียงนัดเดียวก็จะทำสถิติเทียบเท่าสถิติสโมสร 31 นัดไม่แพ้ใครในลาลีกา ที่ทำไว้เมื่อฤดูกาล 1988-89
3. Rangers 5 – 2 Dundee
เรนเจอร์สโชว์ฟอร์มสุดแกร่ง แซงเอาชนะดันดี 5-2 แม้จะโดนออกนำไปก่อนถึง 2 ประตูในครึ่งแรก แต่พวกเขาก็ยังป้องกันไม่ให้เกิดความอับอายหน้าแฟนบอลที่ไอบรอกซ์ ขณะเดียวกันยังช่วยยืดเวลาการคว้าแชมป์ลีกของเซลติกออกไปด้วย
ฟิลิปเป้ เคลเมนต์ กุนซือของทีม เผยว่าเขา “โกรธมาก” ในช่วงพักครึ่ง ก่อนที่ลูกทีมจะมายิง 4 ประตูในครึ่งหลัง เพื่อเป็นการเอาชนะอย่างขาดลอย
ดันดีที่มาเยือนยิงได้ถึง 2 ประตูในเวลา 2 นาทีจากแนวรับอย่างจอร์แดน แม็คกี้ และอันโตนิโอ ปอร์ตาเลส ทำให้พวกเขามีโอกาสบุกมาชนะที่ไอบรอกซ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 200
อย่างไรก็ตาม การแปของรอสส์ แม็คคอสแลนด์ช่วงท้ายครึ่งแรก ช่วยคลายความกดดันให้กับเจ้าบ้าน ก่อนที่ไซเรียล เดสเซอร์ส จะมาโหม่งตีเสมอให้เรนเจอร์สในนาทีที่ 51
ต่อมาทอดด์ แคนท์เวลล์ ก็ซัดประตูพาทีมขึ้นนำจากจังหวะเปิดเตะมุม และสก็อตต์ ไรท์ก็มายิงอีก 2 ลูกช่วงท้ายเกม ช่วยให้เรนเจอร์สเก็บ 3 แต้มอย่างสบายใจ
เคลเมนต์กล่าวกับบีบีซีสก็อตแลนด์ว่า: “ผมโกรธมาก เพราะพวกเขาไม่ตอบแทนตัวเอง เรามีความตั้งใจที่ดีกับบอล แต่ไม่มากพอหากไม่มีบอล เราต้องลุกขึ้นยืนและแสดงให้เห็นมากกว่านี้”
“เราเล่นฟุตบอลเกมรุกที่ดีในครึ่งหลัง มันเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อไปอีก 10 วัน เราต้องทำได้สม่ำเสมอกว่านี้ในฤดูกาลหน้า ความดุดันแบบนั้นต้องมีตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ตอนที่ผมโกรธเท่านั้น”
เรนเจอร์สไล่จี้เซลติกเหลือแค่ 3 คะแนน ขณะที่เซลติกมีคิวไปเยือนคิลมาร์น็อกในคืนวันพุธ ซึ่งพวกเขาต้องการแค่แต้มเดียวเพื่อการันตีแชมป์
ส่วนดันดีจะจบฤดูกาลด้วยอันดับ 6 หลังจากความหวังไปเล่นฟุตบอลยุโรปพังทลายลงแล้ว
สรุป ผลฟุตบอลเมื่อคืนที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ไป 2-0 จากการทำคนเดียว 2 ประตูของเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ในครึ่งหลัง ทำให้พวกเขาเหลือเพียงชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ดในบ้านนัดสุดท้าย ก็จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกันทันที ส่วนคู่นี้ทำให้ไก่เดือยทองพลาดท็อปโฟร์อย่างน่าเสียดาย ต้องไปเล่นถ้วยยูโรป้าลีกแทน ขณะที่แอสตัน วิลล่าจะได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้า ต่อกันที่ลาลีกา เรอัล มาดริด ถล่มเอาชนะอลาเบส 5-0 โดยจู๊ด เบลลิงแฮม ยิงประตูที่ 19 ในลีกได้ด้วย ส่วนทีมเหลืออีกเพียงนัดเดียวก็จะสร้างสถิติใหม่ 32 นัดไม่แพ้ใคร ปิดท้ายที่สกอตแลนด์ เรนเจอร์สแซงชนะดันดี 5-2 แม้โดนนำไปก่อน 2-0 ในครึ่งแรก แต่ก็มาได้ 5 ประตูรวดจนกลับมาเอาชนะได้สำเร็จ ส่งผลให้ยังคงลุ้นแชมป์กับเซลติกต่อไป โดยตามหลังอยู่ 3 คะแนน ก่อนจะเหลือโปรแกรมอีกหนึ่งนัด