สวัสดีแฟนบอลทุกท่าน วันนี้เรามีข่าวฟุตบอลมาอัปเดตให้ติดตามกันถึง 3 คู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมเพลย์ออฟแชมเปี้ยนชิพของอังกฤษ ที่เซาแธมป์ตันเอาชนะเวสต์บรอมได้อย่างสุดมัน ส่วนกัลโช เซเรีย อา อิตาลี ก็มีบิ๊กแมตช์ระหว่างฟิออเรนติน่ากับนาโปลีจบลงด้วยผลเสมอแบบสุดมันส์เช่นกัน และปิดท้ายด้วยศึกสก็อตติช พรีเมียร์ชิพ เพลย์ออฟ ที่สุดท้ายต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษสุดระทึก ระหว่างเรธ์ โรเวอร์สกับพาร์ติค ธิสเซิล เรามาติดตามรายละเอียดของแต่ละคู่กันเลย
1. Southampton 3 – 1 West Bromwich Albion
เซาแธมป์ตันจะเข้าชิงชนะเลิศเพลย์ออฟแชมเปี้ยนชิพกับลีดส์ ยูไนเต็ด หลังจากที่โชว์ฟอร์มสุดยอดในครึ่งหลังเอาชนะเวสต์บรอมวิชอัลเบี้ยน 3-1
เกมแรกจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แต่ในเกมที่สองนี้ วิลล์ สมอลโบน มิดฟิลด์เซาแธมป์ตัน ซัดประตูขึ้นนำให้ทีมในครึ่งหลัง ก่อนที่อดัม อาร์มสตรอง จะมายิงเพิ่มอีก 2 ประตู ทำให้แฟนบอลในสนามเฮลั่น แม้ว่าเซดริก คิปเร จะมายิงตีไข่แตกให้ทีมเยือนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ก็สายเกินไป
เกมนี้เริ่มต้นด้วยบรรยากาศที่คึกคัก มีแฟนบอลมารอต้อนรับนักเตะเซาแธมป์ตันอย่างล้นหลาม พร้อมจุดพลุสีแดงขาวและเชียร์กันสนั่นหวั่นไหว แต่จนแล้วจนรอดก็ต้องรอประตูของสมอลโบนในครึ่งหลัง เกมถึงได้สนุกขึ้นมา
ช่วงท้ายเกม เซาแธมป์ตันมีจังหวะได้จุดโทษ หลัง ไรอัน แมนนิ่ง ถูกคิปเรทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ซึ่งอาร์มสตรองก็สังหารไม่พลาด ส่วนประตูปลอบใจของคิปเรก็ไม่ทันการณ์ เซาแธมป์ตันจึงเป็นฝ่ายผ่านเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
2. Fiorentina 2 – 2 Napoli
นาโปลีแชมป์เก่าเซเรียอาฤดูกาลที่แล้ว ทำได้เพียงเสมอกับฟิออเรนติน่า 2-2 ในเกมลีกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกเขามีโอกาสจบอันดับในตารางคะแนนไม่เกินอันดับ 8 ในฤดูกาลนี้
ปัจจุบันนาโปลีรั้งอยู่ที่อันดับ 9 มีแต้มตามหลังฟิออเรนติน่าอยู่ 2 คะแนน โดยที่ฟิออเรนติน่ายังเหลือโปรแกรมแข่งขันอีก 1 นัด ขณะที่นาโปลีเหลืออีกเพียงนัดเดียว นาโปลีคว้าแชมป์ลีกเมื่อ 12 เดือนก่อน เป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ยุคของดีเอโก้ มาราโดน่า แต่ฟอร์มในซีซั่นนี้ตกลงอย่างน่าใจหาย เสมอไปถึง 13 นัดจาก 37 เกม และไม่ชนะใครเลยในหกนัดหลังสุด
ในเกมนี้ อามีร์ ราห์มานี ยิงประตูให้นาโปลีออกนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 8 แต่ฟิออเรนติน่าไล่ตีเสมอและแซงนำจากประตูของคริสเตียโน บรากี้ จากลูกฟรีคิกสุดสวย และเอ็มบาล่า เอ็นโซล่า จากลูกยิงเรียดๆ ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนพักครึ่ง
อย่างไรก็ตาม ควิชา คาวาราสเคเลีย กองหน้าชาวจอร์เจีย มายิงประตูตีเสมอ 2-2 ให้นาโปลีจากลูกฟรีคิกสุดสวยไกลถึง 30 เมตร นับเป็นประตูที่ 11 ของเขาในฤดูกาลนี้ ทำให้จบเกมด้วยผลเสมอไปอย่างน่าผิดหวัง
3. Raith Rovers 1 – 2 Partick Thistle
เรธ์ โรเวอร์ส เอาชนะ พาร์ติค ธิสเซิล ในการดวลจุดโทษ หลังเสมอกันในเวลา 120 นาทีในเกมเลกสองของรอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟสก็อตติช พรีเมียร์ชิพ
เรธ์ โรเวอร์สนำก่อน 2-1 จากเกมแรก แต่พาร์ติคโชว์ฟอร์มสุดยอดบุกมาชนะ 2-1 ในถิ่นสตาร์ค พาร์ค ทำให้ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ
ในการยิงจุดโทษ ดาบิด มิทเชลล์ นายด่านพาร์ติค เซฟลูกแรกของเรธ์ โรเวอร์ส แต่สองลูกต่อมาแจ็ค แม็คมิลแลน ยิงไปข้างนอก และริคโค เดียค ยิงติดเสา ทำให้ลูอิส วอห์น ได้โอกาสยิงลูกสุดท้ายเข้าไปชนะให้เรธ์แม้โดนมิทเชลล์ปัดปลายนิ้ว ทำให้แฟนๆ รวมถึงอดีตนายกฯ กอร์ดอน บราวน์ พากันเฮลั่นในสตาร์ค พาร์ค
เรธ์ โรเวอร์สจะเข้าไปเจอกับทีมที่จบอันดับ 11 ในพรีเมียร์ชิพ ไม่ว่าจะเป็นรอสส์ เคาน์ตี หรือเซนต์ จอห์นสโตน ในรอบชิงชนะเลิศวันที่ 23 และ 26 พฤษภาคมนี้ โดยผู้ชนะจะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลหน้า ซึ่งถ้าเป็นเรธ์ โรเวอร์สจะถือเป็นการกลับสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997
สรุป ผลฟุตบอลวันนี้ เริ่มจากศึกเพลย์ออฟแชมเปี้ยนชิพอังกฤษ เซาแธมป์ตันโชว์ฟอร์มเทพเปิดบ้านถล่มเวสต์บรอมวิช 3-1 ผ่านเข้าชิงดำกับลีดส์ไปได้ ต่อกันที่อิตาลี นาโปลีแชมป์เก่าเซเรียอาบุกไปเสมอฟิออเรนติน่า 2-2 แต่ผลงานโดยรวมยังไม่คึกคัก คงจบอันดับได้ไม่เกินท็อป 8 ในฤดูกาลนี้ ปิดท้ายกันที่สกอตแลนด์ เรธ์ โรเวอร์สเอาชนะพาร์ติค ธิสเซิล ในการดวลจุดโทษ 4-3 หลังเสมอในเวลา 120 นาทีด้วยสกอร์ 3-3 ได้ผ่านเข้าไปชิงตั๋วเลื่อนชั้นกับทีมอันดับ 11 ของสกอตติชพรีเมียร์ชิพต่อไป