บ้านฟุตบอล เป็นเว็บไซต์อำนวย ผลบอลสดภาษาไทย ผลฟุตบอลสด ผลบอลวันนี้ ผลบอลย้อนหลัง โปรแกรมบอลล่วงหน้า โปรแกรมบอลพรุ่งนี้ ตารางบอล ตารางคะแนน อัตราต่อรอง ราคาบอลไหล ราคาบอลวันนี้ ราคาบอลสด ที่อัพเดทรวดเร็ว เที่ยงตรง ถูกต้องและแม่นยำของทุกคู่ ทุกลีกทั่วโลกทั้งในและต่างประเทศ ผลบอลสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ผลบอลสดลาลีกาสเปน ผลบอลสดบุนเดสลีกาเยอรมัน ผลบอลสดลีกเอิงฝรั่งเศษ ผลบอลสดไทยพรีเมียร์ลีก ผลบอลสดยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ผลบอลสดยูโรปาลีก ผลบอลสดฟุตบอลโลก พร้อมรายงานการแข่งขันสด แสดงรายชื่อผู้เล่นตัวจริง แจ้งเตือนการทำประตู โดนใบแดงใบเหลืองที่อัพเดทกันแบบเรียล์ไทม์ แจกทีเด็ดบอล วิเคราะห์บอล ทรรศนะบอลอย่างฟรีด้วย

ผลบอลเมื่อคืน วงการฟุตบอลมีเรื่องน่าตื่นเต้นให้ติดตามหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของทีมดังจากสเปนอย่างเรอัล มาดริด, ฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐที่ถล่มเอาชนะเกาหลีใต้ไปขาดลอย, เรซซิ่ง คลับจากอาร์เจนตินาที่เฉือนชนะคู่แข่งได้แบบหวุดหวิดในช่วงทดเจ็บ, และการคว้าชัยในบ้านของซานเฟรชเช ฮิโรชิม่า ในศึกเจลีก เราไปดูรายละเอียดของผลการแข่งขันที่น่าสนใจเหล่านี้กัน


1. ดอร์ทมุนด์ 0 – 2 เรอัล มาดริด

 

(ขอบคุณรูปภาพจาก : BBC)

เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 15 ไปครอง หลังเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

(ขอบคุณรูปภาพจาก : Football365)

ดอร์ทมุนด์ครองเกมได้ดีกว่าในครึ่งแรก และมีโอกาสทองหลายครั้ง แต่ยิงไม่เข้า ส่วนเรอัล มาดริด แม้โดนบุกใส่ แต่ก็ยังคงเหนียวแน่น รอจังหวะสวนกลับ

(ขอบคุณรูปภาพจาก : beIN SPORTS)

ท้ายที่สุด เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำจากการโหม่งของ ดานี การ์บาฆาล นาทีที่ 74 ตามด้วยประตูปิดกล่องจาก วินิซิอุส จูเนียร์ ในอีก 9 นาทีให้หลัง ช่วยให้ทัพ “ราชันชุดขาว” ผงาดคว้าแชมป์ยุโรปในฤดูกาลนี้ไปครอง นี่ถือเป็นการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 สมัยใน 11 ฤดูกาลหลังสุดของ เรอัล มาดริด และเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 15 ของสโมสร ทำสถิติเหนือกว่าทีมอื่นๆ อย่างเหลือเชื่อ

(ขอบคุณรูปภาพจาก : NZ Herald)

นอกจากนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ยังทำสถิติเป็นโค้ชคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ 5 สมัย ขยับหนีห่างจากโค้ชคนอื่นๆ ไปไกล แม้จะเป็นรองและเกือบพ่ายแพ้ แต่สุดท้าย เรอัล มาดริด ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและคว้าชัยในเกมที่ยากลำบากนัดนี้ไปครองได้อีกครั้ง

(ขอบคุณรูปภาพจาก : Get German Football News)


2. สหรัฐอเมริกา 4 – 0 เกาหลีใต้

 

(ขอบคุณรูปภาพจาก : US Soccer)

ทีมฟุตบอลหญิงสหรัฐอเมริกา เปิดบ้านถล่ม เกาหลีใต้ 4-0 ในเกมอุ่นเครื่อง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ภายใต้การคุมทีมนัดแรกของ เอ็มม่า เฮย์ส กุนซือคนใหม่ แมลลอรี สวอนสัน และ เทียร์น่า เดวิดสัน ทำคนละ 2 ประตู ช่วยให้ทัพ “ยูเอสดับเบิลยูเอ็นที” เก็บชัยชนะนัดประเดิมสนามของเฮย์สได้อย่างสวยงาม

(ขอบคุณรูปภาพจาก : NBC News)

ตลอดทั้งเกม สหรัฐฯ ครองบอลบุกเข้าใส่แผงหลังเกาหลีใต้ได้อย่างต่อเนื่อง จนมาได้ประตูขึ้นนำจาก สวอนสัน และ เดวิดสัน ในครึ่งแรก ก่อนที่ทั้งคู่จะมาบวกสกอร์เพิ่มได้อีกคนละลูกในครึ่งหลัง ปิดเกมด้วยสกอร์ขาดลอย 4-0

(ขอบคุณรูปภาพจาก : Henry Herald)

เฮย์ส วัย 47 ปี เพิ่งเข้ามารับงานคุมทีมเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีภารกิจสำคัญในการพาทีมกลับสู่ความยิ่งใหญ่ หลังจากผลงานน่าผิดหวังในฟุตบอลโลกหญิงเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การลาออกของ วลัตโก อันโดนอฟสกี้ อดีตเฮดโค้ช

(ขอบคุณรูปภาพจาก : KNWA)

แฟนๆ ที่สนามดิ๊กส์ สปอร์ติ้ง กู๊ดส์ ปาร์ค แห่เข้าชมเกมเต็มความจุ โดยอายุเฉลี่ยของ 11 ผู้เล่นตัวจริงของสหรัฐฯ นัดนี้อยู่ที่ 25.5 ปี ซึ่งเป็นทีมที่อายุน้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปีของพวกเธอ และแฟนบอลบางคนยังถือป้าย “In Emma We Trust” เพื่อแสดงความเชื่อมั่นต่อกุนซือคนใหม่

(ขอบคุณรูปภาพจาก : Henry Herald)

ชัยชนะนัดนี้ทำให้สหรัฐฯ เหนือกว่าเกาหลีใต้ในสถิติการพบกัน โดยทั้งสองทีมจะพบกันอีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องวันอังคารนี้ ที่เมืองเซนต์ พอล รัฐมินนิโซตา


3. เรซซิ่ง 1 – 0 เดปอร์ติโบ ริเอสตรา

 

(ขอบคุณรูปภาพจาก : ambito.com)

เรซซิ่ง คลับ เปิดบ้านเฉือนชนะ เดปอร์ติโบ ริเอสตรา 1-0 จากประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ ซานติอาโก โซลารี ในนัดที่ทั้งสองทีมสู้กันอย่างสูสี

(ขอบคุณรูปภาพจาก : El Intransigente)

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 90+6 ในช่วงทดเจ็บ ก่อนที่ โซลารี จะมายิงประตูชัยให้เจ้าบ้านเฉือนชนะไปหวุดหวิด 1-0 จากจังหวะที่ได้รับบอลจาก มักซิมิเลียโน ซาลาส ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด

(ขอบคุณรูปภาพจาก : C5N)

ตลอดทั้งเกม ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสี และผลัดกันครองบอลบุกเข้าหากัน แต่ยังไม่มีใครเจาะประตูกันได้ในช่วงเวลาปกติ ก่อนที่เรซซิ่ง คลับจะมาได้ประตูชัยช่วงทดเจ็บจากฝีเท้าของ โซลารี

(ขอบคุณรูปภาพจาก : Liga Profesional)

นอกจากนี้ ผู้ตัดสินยังแจกใบเหลือง 2 ใบให้กับ นิโคลัส คาโร ตอร์เรส ของเดปอร์ติโบ ริเอสตรา และ มาร์โก ดิ เชซาเร ของเรซซิ่ง คลับ จากจังหวะเข้าปะทะรุนแรง ชัยชนะนัดนี้ทำให้ เรซซิ่ง คลับ เก็บ 3 คะแนนสำคัญไปครอง และทำให้พวกเขายังคงอยู่ในการลุ้นลำดับต้นๆ ของตาราง

(ขอบคุณรูปภาพจาก : Mendoza Post)


4. ซานเฟรชเช ฮิโรชิม่า 2 – 0 จูบิโล อิวาตะ

 

(ขอบคุณรูปภาพจาก : sanfrecce.co.jp)

เกมลูกหนังเจลีกนัดนี้ ซานเฟรชเช ฮิโรชิม่า เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ จูบิโล อิวาตะ โดยผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่นไปด้วยสกอร์ 2-0

(ขอบคุณรูปภาพจาก : sanfrecce.co.jp)

เกมในครึ่งแรก ซานเฟรชเชฯ เป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่ จนกระทั่งนาทีที่ 38 พวกเขามาได้ประตูขึ้นนำจากการยิงของ ปิเอโรส โซทิริอู ทำให้จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1-0

(ขอบคุณรูปภาพจาก : sanfrecce.co.jp)

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง อิวาตะ พยายามเปิดเกมบุกหวังทวงประตูตีเสมอ แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับที่เหนียวแน่นของเจ้าบ้านได้ กระทั่งนาทีที่ 60 โซทิริอูมายิงประตูที่สองของตัวเองในเกม ช่วยให้ซานเฟรชเชฯ นำห่าง 2-0

(ขอบคุณรูปภาพจาก : jubilo-iwata.co.jp)

หลังจากนั้นทั้งสองทีมต่างผลัดเปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงมาสู้กันในสนาม เพื่อหวังพลิกเกม แต่ไม่มีฝ่ายใดบวกสกอร์เพิ่มได้อีก ทำให้จบเกม ซานเฟรชเช ฮิโรชิม่า เป็นฝ่ายเก็บ 3 แต้มไปได้ในบ้าน ด้วยสกอร์ 2-0

(ขอบคุณรูปภาพจาก : jubilo-iwata.co.jp)


สรุป ผลบอลเมื่อคืน เริ่มจากเรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 15 หลังเฉือนชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ ต่อด้วยทีมฟุตบอลหญิงสหรัฐที่ถล่มเอาชนะเกาหลีใต้ 4-0 ในเกมอุ่นเครื่อง ภายใต้การคุมทีมนัดแรกของเอ็มม่า เฮย์ส ขณะที่เรซซิ่ง คลับ จากอาร์เจนตินา ก็เฉือนชนะเดปอร์ติโบ ริเอสตรา 1-0 ได้แบบหวุดหวิดในช่วงทดเจ็บ ปิดท้ายที่เจลีก ญี่ปุ่น ซานเฟรชเช ฮิโรชิม่า เปิดบ้านชนะจูบิโล อิวาตะ 2-0 จากฟอร์มโหดของปิเอโรส โซทิริอู ที่ทำคนเดียว 2 ประตู